ชวนดูงบค่ารักษาพยาบาลปี 65-68 ไทยใช้งบเพิ่มขึ้นเท่าไหร่? วิเคราะห์สถิติและเหตุผลเบื้องหลัง (2025)

ในช่วงที่ผ่านมาเรื่อง‘งบประมาณค่ารักษาพยาบาลของประเทศไทย’เป็นอีกประเด็นที่ถูกหยิบยกมาตั้งคำถามจากหลายฝ่าย เนื่องจากถูกมองว่ากำลังมี ‘แนวโน้มที่เพิ่มสูงขึ้น’และจำเป็นที่จะต้องมีแนวทางจัดการ เพื่อความยั่งยืน

แม้แต่รัฐบาลก่อนเมื่อครั้งมี แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ยังมีการตั้ง‘คณะกรรมการพิจารณาค่ารักษาพยาบาลของสวัสดิการรักษาพยาบาลประเทศไทย’ เมื่อวันที่27 ม.ค.2568 เพื่อให้ทำหน้าที่พิจารณานโยบายและแนวทางบริหารงบประมาณดังกล่าวเพื่อควบคุมไม่ให้บานปลาย ส่วนเหตุผลของการมีคณะกรรมการชุดนี้ก็ตรงกับที่กล่าวไปข้างต้น คือ การเห็นถึงแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของงบประมาณค่ารักษาพยาบาลของประเทศ

แต่ที่บอกกันว่าเพิ่มขึ้นนั้น เพิ่มขึ้นมากน้อยขนาดไหน“The Coverage”ชวนดูข้อมูลเปรียบเทียบ4 ปี(ปี2565–2568)ของ4 ระบบหลักประกันสุขภาพหลักของไทยคือ ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(บัตรทอง)ระบบประกันสังคม ระบบสวัสดิการข้าราชการ และระบบสวัสดิการพนักงานส่วนท้องถิ่น

เริ่มที่ ระบบบัตรทอง ซึ่งครอบคลุมประชากร46–47 ล้านคน

ปีงบประมาณ2565 ใช้งบประมาณจำนวน140,550.19 ล้านบาท

ปีงบประมาณ 2566 ใช้งบประมาณจำนวน142,297.94 ล้านบาท

ปีงบประมาณ2567 ใช้งบประมาณจำนวน152,738.24 ล้านบาท

ปีงบประมาณ2568 ใช้งบประมาณจำนวน168,296.89 ล้านบาท

ต่อมา ระบบประกันสังคม ซึ่งครอบคลุมประชากรประมาณ14 ล้านคน (ผู้ประกันตน มาตรา33 และมาตรา39)

ปีงบประมาณ2565 ใช้งบประมาณจำนวน85,154.23ล้านบาท

ปีงบประมาณ 2566 ใช้งบประมาณจำนวน64,181.38 ล้านบาท

ปีงบประมาณ2567 ใช้งบประมาณจำนวน70,499.27ล้านบาท

ปีงบประมาณ2568 ใช้งบประมาณจำนวน74,388.94ล้านบาท

ส่วน ระบบสวัสดิการข้าราชการ ซึ่งครอบคลุมประชากรประมาณ4.8 ล้านคน

ปีงบประมาณ2565 ใช้งบประมาณจำนวน74,000 ล้านบาท

ปีงบประมาณ 2566 ใช้งบประมาณจำนวน76,000 ล้านบาท

ปีงบประมาณ2567 ใช้งบประมาณจำนวน79,565 ล้านบาท

ปีงบประมาณ2568 ใช้งบประมาณจำนวน93,800 ล้านบาท

ขณะที่ ระบบสวัสดิการพนักงานส่วนท้องถิ่น

ปีงบประมาณ2565 ใช้งบประมาณจำนวน5,983.10 ล้านบาท

ปีงบประมาณ 2566 ใช้งบประมาณจำนวน6,788.88 ล้านบาท

ปีงบประมาณ2567 ใช้งบประมาณจำนวน8,574.91 ล้านบาท

ปีงบประมาณ2568 ใช้งบประมาณจำนวน10,146.37 ล้านบาท

หากรวมทุกระบบแล้ว งบค่ารักษาพยาบาลในภาพรวมจากปี2565–2568 เฉลี่ยแล้วเพิ่มขึ้น4.53% ต่อปี แต่หากเฉพาะเจาะจงไปในแต่ละปีอาจจะมีบางปีที่ทำให้เห็นภาพการเพิ่มขึ้นที่ค่อนข้างก้าวกระโดด อย่างปีงบประมาณ2568 งบค่ารักษาพยาบาลรวมแล้วทั้งหมด346,632,19 ล้านบาทซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2567 ถึง35,254.78 ล้านบาท หรือ11.32%

สำหรับปัจจัยที่ส่งให้เกิดการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้นทางสำนักงบประมาณเคยสรุปไว้ทั้งหมด 9 ข้อด้วยกัน ได้แก่1.การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร เนื่องจากประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแล้ว และยังมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วด้วย ซึ่งประชากรกลุ่มนี้มักป่วยด้วยโรคเรื้อรังที่ทำให้ต้องได้รับการรักษาพยาบาลอย่างต่อเนื่อง

ข้อมูลล่าสุดจากกรมกิจการผู้สูงอายุ ระบุว่า ไทยมีประชากรทั้งหมด 66 ล้านคน ในจำนวนนี้มี13 ล้านคนที่เป็นผู้สูงอายุ หรือ20%ของประชากรทั้งหมด ซึ่งหากไปถึง30%เมื่อไหร่จะทำให้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุระดับสุดยอด(Super Aged Society)

ชวนดูงบค่ารักษาพยาบาลปี 65-68 ไทยใช้งบเพิ่มขึ้นเท่าไหร่? วิเคราะห์สถิติและเหตุผลเบื้องหลัง (1)

2.ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทางการแพทย์ โดยการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้ในระบบสุขภาพ ทำให้คุณภาพการรักษาพยาบาลดีขึ้น แต่ก็มาพร้อมกับค่าใช้จ่ายที่สูง

3.โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs)เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคอ้วน โรคหัวใจ ฯลฯ ที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย และต้องการการดูแลรักษาระยะยาว ทำให้เพิ่มต้นทุนด้านการดูแลรักษาพยาบาลอย่างมาก

ยกตัวอย่างเช่น จากการวิจัยเบื้องต้นของโครงการสำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกายครั้งที่ 7 พร้อมกับเปรียบเทียบกับครั้งที่6 พบว่า โรคNCDs เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคอ้วนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเบาหวานจาก9.5%เพิ่มเป็น10.6%ส่วนความดันโลหิตสูง จาก25.4%เพิ่มเป็น29.5%โรคอ้วน จาก42.2%เพิ่มเป็น45%

4.การเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายด้านยาและเวชภัณฑ์ โดยเฉพาะยาที่นำเข้าจากต่างประเทศ ที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เช่นกรณีของ ยาZolgensma ยารักษาโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (SMA)ที่มีราคาต่อโดสอยู่ที่ 71.5 ล้านบาท ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนในประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว

ชวนดูงบค่ารักษาพยาบาลปี 65-68 ไทยใช้งบเพิ่มขึ้นเท่าไหร่? วิเคราะห์สถิติและเหตุผลเบื้องหลัง (2)

5.การขยายสิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพ เพื่อให้มีความครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งแม้จะยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับประชาชน แต่ก็อาจเกิดการใช้ทรัพยากรเกินความจำเป็นเช่นกัน

ช่วงที่ผ่านมาที่เห็นได้ชัดก็อย่างนโยบาย30 บาทรักษาทุกที่ ซึ่งเป็นการเพิ่มความสะดวกในการไปรับบริการให้กับประชาชนสิทธิบัตรทองในการไปรับบริการที่คลินิก หรือร้านยาเอกชน

6.ความไม่สมดุลของอุปสงค์และอุปทานด้านการแพทย์ หรือจำนวนผู้ป่วยที่ต้องการบริการสุขภาพเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่จำนวนบุคลากรทางการแพทย์และทรัพยากรยังคงจำกัด

7.การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและค่านิยมการใช้บริการสุขภาพ โดยมีแนวโน้มที่จะเลือกใช้บริการในโรงพยาบาลเอกชนที่มีเทคโนโลยีสูง ทำให้รัฐต้องแบกรับค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในบางกรณี

8.ความไม่เพียงพอของมาตรการป้องกันโรค โดยการลงทุนในมาตรการป้องกันโรคและการให้ความรู้ด้านสุขภาพยังมีไม่เพียงพอ ทำให้ประชากรเสี่ยงต่อการเกิดโรคที่สามารถป้องกันได้

9.การบริหารจัดการที่ยังไม่มีประสิทธิภาพ

เหล่านี้คือสิ่งที่ไทยกำลังเผชิญอยู่ ซึ่งดูเหมือนว่าขณะนี้น่าจะยังไม่มีการขยับเขยื้อนอะไรในระดับภาพใหญ่เพื่อควบคุมงบค่ารักษาพยาบาลของประเทศ เพราะจากสถานการณ์การเมืองที่นำมาสู่การเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ ซึ่งมี อนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี ก็เพิ่งเริ่มตั้งไข่ อีกทั้งกลไกอย่างคณะกรรมการพิจารณาค่ารักษาพยาบาลของสวัสดิการรักษาพยาบาลประเทศไทยที่ตั้งมาจากรัฐบาลก่อนก็น่าจะหายไปตามกาลเวลาด้วยเช่นกัน

ชวนดูงบค่ารักษาพยาบาลปี 65-68 ไทยใช้งบเพิ่มขึ้นเท่าไหร่? วิเคราะห์สถิติและเหตุผลเบื้องหลัง (2025)

References

Top Articles
Latest Posts
Recommended Articles
Article information

Author: Manual Maggio

Last Updated:

Views: 5928

Rating: 4.9 / 5 (69 voted)

Reviews: 84% of readers found this page helpful

Author information

Name: Manual Maggio

Birthday: 1998-01-20

Address: 359 Kelvin Stream, Lake Eldonview, MT 33517-1242

Phone: +577037762465

Job: Product Hospitality Supervisor

Hobby: Gardening, Web surfing, Video gaming, Amateur radio, Flag Football, Reading, Table tennis

Introduction: My name is Manual Maggio, I am a thankful, tender, adventurous, delightful, fantastic, proud, graceful person who loves writing and wants to share my knowledge and understanding with you.